Health

9 อาการสัญญาณเสี่ยงไข้เลือดออก

ฤดูฝนนี่หวานเชื่อว่าเป็น ฤดูที่พ่อแม่แทบทุกคนอยากให้ผ่านพ้นไปเร็วๆ เพราะเป็นฤดูที่อุดมไปด้วยสารพัดโรค ทะยอยระบาดกันมาเป็นระลอกๆ แบบไม่ให้พ่อแม่อย่างเราพักหายใจหายคอกันบ้างเลย 🤣🤣
ล่าสุด!!! นี่เลยจ๊าาาา เพื่อนห้องเดียวกับพีต้าเพิ่งมี admit เข้าโรงพยาบาลไปสดๆร้อนๆ ยังไม่พอเด็กแถวบ้านก็เป็น เพราะยุงตัวดี กับโรคนี้เลย “ไข้เลือดออก” 😱😱ได้ยินชื่อมาทีไรใจหายทุกที!!!! วันนี้เลยมีข้อมูลดีๆมาฝาก จะได้เฝ้าระวังได้ทันการณ์ค่า 😊✌🏻

1. ไข้ลดลงแต่อาการแย่ลง

ต้องบอกก่อนว่าในโรคเดียวกัน อาการของผู้ป่วยแต่ละคนอาจมีความรุนแรงต่างกัน แต่อาการที่เด่นชัดคือ “มีไข้” คล้ายคนไข้ที่มีอาการไข้หวัดทั่วไป ในช่วงแรกไข้จะสูงมาก อาจมาพร้อมกับมีอาการหวัดและปวดเมื่อยตามตัวร่วมด้วยได้ แต่ถ้าพอไข้ลดลงแล้วแต่อาการอื่นๆกับแย่ลง อันนี้ให้รีบพามาโรงพยาบาลได้เลยค่ะ

⭐️ ที่สำคัญมากอยากจะฝากไว้คือเรื่องของ “ยาลดไข้” ⭐️

ถ้าสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก‼️
⚠️ ห้ามให้ลูกกินยาแอสไพรินและไอบูโปรเฟนเด็ดขาด ⚠️
เนื่องจากยาทั้งสองชนิดนี้จะยิ่งส่งเสริมทำให้การเกิดภาวะเลือดออกผิดปกติจนเป็นอันตรายในผู้ป่วยไข้เลือดออกได้

โดยยาลดไข้ที่ใช้ได้มีเพียงชนิดเดียว คือ..
☑️ พาราเซตามอล (paracetamol)

2. คลื่นไส้ อาเจียน

ในบางรายพบได้ว่าอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย คุณพ่อคุณแม่ต้องจับตาเฝ้าระวังกันให้ดี

3. ปวดท้องรุนแรง

บางรายอาจรู้สึกท้องอืด เบื่ออาหาร ต้องสังเกตอาการให้ดี ถ้าพบว่ามีอาการปวดท้องรุนแรงมาก ให้รีบพาส่งโรงพยาบาลทันที

4. มีเลือดออกมาก

มีอาการเลือดออกตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย และจุดแดงๆ ตามตัว ในเด็กบางรายอาจมีเลือดกำเดาไหล หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ

5. พฤติกรรมเปลี่ยนไป

พูดไม่รู้เรื่อง เซื่องซึม ไม่ตอบสนองดีเท่าที่ควร เบื่ออาหาร ทานข้าวไม่ได้ ปากแห้งซีด รีบไปตรวจด่วนเลยค่ะ

6. กระหายน้ำตลอดเวลา

ในบางรายจะรู้สึกคอแห้ง กระหายน้ำอยู่ตลอดเวลา แต่บางรายก็ไม่รู้สึกอยากดื่มน้

7. ร้องกวนมาก(ในเด็กเล็ก)

เด็กเล็กๆที่ยังพูดสื่อสารบอกเราไม่ได้ อาจร้องไห้กวนมากผิดปกติ เอะอะโวยวาย บางรายกระสับกระส่าย เพราะฉะนั้นเวลาลูกไม่สบายคุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

8. ตัวเย็น สีผิวคล้ำลง/ตัวลาย

เด็กๆอาจมีอาการตัวเย็น สีผิวคล้ำลงหรือตัวลาย รวมถึงเหงื่อออกมาก

9. ปัสสาวะน้อยลง

ต้องคอยสังเกตเสมอว่าปัสสาวะลูกเป็นปกติดีมั้ย ถ้าเริ่มปัสสาวะน้อยลงจากเดิม ก็อาจจะต้องพาไปพบคุณหมอเช็คอาการ เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ

🏥 วิธีการรักษา 💊

ณ วันนี้ โลกเรายังไม่มีการพัฒนายาฆ่าเชื้อไวรัสเดงกี่ (ที่เป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออก) โดยเฉพาะ การรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการเป็นสำคัญ ซึ่งก็คือ การใช้ยาลดไข้ เช็ดตัว และการป้องกันภาวะช็อก

สำหรับอาการข้างต้นทั้ง9ข้อ ไม่ต้องรอให้มีอาการครบทุกข้อแล้วค่อยมาพบคุณหมอนะคะ แค่มีข้อใดข้อหนึ่งควรรีบไปโรงพยาบาลด่วน เพื่อจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีค่า 

**จริงๆเดี๋ยวนี้เค้ามีวัคซีนไข้เลือดออกมาแล้ว แต่เริ่มใช้ได้ในเด็กอายุ9ขวบขึ้นไป แต่รายละเอียดมากกว่านี้เป็นยังไง เดี๋ยวไว้มีเวลาจะหาข้อมูลมาเล่าให้ฟังอีกทีน๊าา**

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *